Last updated: 9 ก.ย. 2566 | 2677 จำนวนผู้เข้าชม |
License per Invoice หรือเรียกอย่างย่อว่าLPI เป็นการแจ้งนำเข้าที่เชื่อมโยงข้อมูลสินค้าของหน่วยงานที่กำกับดูแลนั้นๆกับกรมศุลกากร ซึ่งต้องทำทุกครั้งที่นำเข้า หากสินค้าใดที่มีข้อกำหนดหรือตรวจสอบพิกัดศุลกากร (HS CODE) แล้วพบว่าต้องมีใบอนุญาตไม่ว่าจะเป็นใบอนุญาตของหน่วยงานใดก็ตาม ก็ต้องดำเนินการขอใบอนุญาตนั้นใ้ห้แล้วเสร็จก่อน ในบทความนี้ขอนำเสนอเกี่ยวสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ อย.
สินค้าใดบ้างต้องมี License per Invoice ณ ปัจจุบันสินค้าที่อยู่ในการกำกับดูแลของ อย.
ที่ต้องมี LPI ได้แก่ เครื่องสำอาง ยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และยา (ยกเว้นยาสมุนไพร) ซึ่งเป็นการกำหนดร่วมกันระหว่าง อย.กับกรมศุลกากร กำหนดโดยใช้พิกัดรหัสสถิติศุลกากรซึ่งกรมศุลกากรจะประกาศพิกัดรหัสสถิติของสินค้าที่ต้องมี LPI ทุกวันที่ 15 ของเดือน และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ของเดือนถัดไป
License per Invoice ขอได้อย่างไร
การขอ License per Invoice (LPI) มี 2 ช่องทางคือ
1. ยื่นขอ ณ สำนักด่านอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข
2.ยื่นขอผ่านอินเตอร์เน็ต ด้วยโปรแกรมe–Logistics งานด่านอาหารและยา
หรือ บริการยื่น LPI https://www.apenterligance.com/
นับว่าเป็นความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐในการดำเนินงานเป็นการลดค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการ ได้แก่
ที่มา : ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก วารสารอาหารและยา ฉบับเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2557
สอบถามข้อมูลหรือปรึกษาเพิ่มเติมฟรี Line ID:ap3236 สายด่วน 091-2221996
บริการยื่นขอ LPI คลิก https://www.apenterligance.com/